รายละเอียดสินเชื่อเพื่อการแต่งงาน เลือกอ่านได้

กู้เงินแต่งงาน

แน่นอนครับว่าการแต่งงานเป็นพิธีการอย่างหนึ่ง ที่จะต้องใช้เงินก้อนโต ในการจัดขึ้น ทีนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินก้อน สำหรับการจัดงานแต่งงาน จะทำอย่างไรดี เก็บเงินก็ยาก แต่ก็อยากจะแต่งงาน? คำตอบก็คือ การ “กู้เงินแต่งงาน” นั่นเองครับ

การกู้เงินแต่งงานนั้นก็เหมือนกับการกู้เงินซื้อบ้าน หรือซื้อรถ นั่นคือจะต้องยื่นคำร้องไปยังธนาคาร หรือสถาบันการเงิน เพื่อขอสินเชื่อเป็นเงินก้อน จากนั้นก็ค่อยผ่อนจ่ายคืนทีหลังพร้อมกับดอกเบี้ย ที่ทางธนาคารเก็บเป็นค่าบริการปล่อยสินเชื่อครับ

ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่า ในปัจจุบัน ยังไม่มีธนาคารไหนที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อการแต่งงานโดยเฉพาะออกมาครับ ดังนั้นคนที่จะกู้เงินมาแต่งงาน จึงจำเป็นจะต้องใช้บริการ “สินเชื่อบุคคล” ซึ่งมันเป็นสินเชื่อประเภท ไม่จำกัดว่าจะเอาไปใช้อะไรอยู่แล้ว และสะดวกสบายในการใช้งาน ขอก็ง่ายไม่ต้องมีการค้ำประกันอะไรด้วย ดังนั้นหลายๆ คนจึงเลือกที่จะขอสินเชื่อประเภทนี้เพื่อมาจัดงานแต่งงานครับ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของสินเชื่อประเภทนี้คืออัตราดอกเบี้ย ที่ค่อนข้างแพงครับ ใครจะกู้ก็อย่าลืมดู และเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ย ในระดับที่พอรับได้ด้วยนะ

ข้อดีของการกู้เงินแต่งงาน

– คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเงินนานเกินไปครับ ซึ่งโดยปกตินั้นการเก็บเงินแต่งงาน มักจะเก็บร่วมกันระหว่างคู่รัก เป็นเวลาระยะหนึ่ง ก่อนที่จะสามารถจัดงานแต่งงานได้ แต่ถ้าเป็นการกู้เงินแต่งงาน ก็ตัดส่วนที่เก็บเงินออกไป แต่งได้ทันทีไม่ต้องรอหลายปี เหมาะกับคู่รักที่ต้องการความรวดเร็ว หรือจะแบ่งเป็นเก็บเงินส่วนหนึ่ง แล้วกู้มาเพิ่มส่วนหนึ่งก็ได้เช่นกัน

– คุณสามารถเหลือเงินสำหรับทำอย่างอื่น : อย่างที่บอกว่าสินเชื่อแต่งงานที่จริงแล้วมันไม่มี มันเป็นสินเชื่อบุคคล ที่จะจ่ายเงินเป็นก้อนที่ไม่มีทางพอดีเป๊ะๆ กับค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรอกครับ ส่วนมากได้เงินก้อนที่มากกว่าค่าจัดงานทั้งนั้นแหละ นั่นทำให้เหลือเงินส่วนหนึ่ง สำหรับทำอย่างอื่นๆ ครับ เช่น การไปฮันนีมูน การตกแต่งต่อเติมเรือนหอ เป็นต้น

ข้อเสียของการกู้เงินแต่งงาน

– สินเชื่อบุคคล อัตราดอกเบี้ยสูง : เป็นธรรมชาติ ของสินเชื่อประเภทนี้ครับ ที่อัตราดอกเบี้ยจะค่อนข้างสูงอยู่แล้ว  คือ 18% ต่อปีขึ้นไปทั้งนั้น ดังนั้นคุณต้องคิดให้ดี ว่าจะเลือกเก็บเงินแต่งงาน ที่อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่แต่งแล้วก็ไม่เป็นหนี้ หรือจะกู้เงินมาแต่ง ซึ่งจะต้องมารับภาระผ่อนหนี้คืนภายหลัง

– มักได้วงเงินจำกัด : สินเชื่อบุคคลมักให้กู้ที่ราวๆ ไม่เกิน 1-2 ล้านบาท ซึ่งบางทีขนาดงานของบางคู่ อาจจะใหญ่กว่านั้น อาจจะทำให้เงินที่กู้มานั้นไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ดังนั้นถ้าใครจะจัดงานใหญ่ๆ เก็บเงินไว้ส่วนหนึ่ง แล้วค่อยกู้เพิ่มดีกว่า

สินเชื่อเพื่อการแต่งงาน

สินเชื่อบุคคลซิตี้เพื่อการแต่งงาน

สมัครสินเชื่อบุคคลซิตี้เพื่อการแต่งงาน ซิตี้เปิดสินเชื่อเพื่อการแต่งงาน สนใจกู้เงินแต่งงาน รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน รับวงเงินสูงสุด 5 เท่า สมัครผ่านออนไลน์ได้แล้วที่นี่

สมัครออนไลน์

เติมเต็มเรื่องแต่ง สินเชื่อบุคคลซิตี้ – เข้าใจสินเชื่อ เข้าใจคุณ

• วงเงินอนุมัติสินเชื่อบุคคลซิตี้ 5 เท่า ไม่เกิน 2,000,000 บาท
• ดอกเบี้ย 15.99% – 28% ต่อปี (ลดต้นลดดอก)
• ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
• เงินเดือนผู้สมัครสินเชื่อบุคคลซิตี้ 20,000 บาทขึ้นไป

สินเชื่อบุคคลเพอร์ซัลนัลแคช

สมัครออนไลน์

แหล่งเงินทุน ที่เหมาะสมกับชีวิตคุณ เพื่อเริ่มต้นสิ่งดีๆในทุกๆโอกาส

• วงเงินอนุมัติสินเชื่อบุคคลเพอร์ซัลนัลแคช 5 เท่าไม่เกิน 1,500,000 บาท
• ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
• อัตราดอกเบี้ย 9%-18% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยแบบ ลดต้นลดดอก)
• เงินเดือนผู้สมัครสินเชื่อบุคคลเพอร์ซัลนัลแคช 20,000 บาทขึ้นไป

ค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่ง

การจัดงานแต่งงานนั้น เป็นพิธีการอย่างหนึ่ง ที่แน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นครับ เพราะถือว่าเป็นพิธีการขนาดใหญ่ (แม้จะจัดเล็กๆ ก็ตาม) มีการเชิญแขกเหรื่อ เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานกันอย่างมากมาย นอกจากนั้นยังต้องมีการเลี้ยงอาหาร เครื่องดื่ม และกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ให้กับแขกเหรื่อและผู้ร่วมงานอีกด้วย ค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่ง ในปัจจุบัน มีดังต่อไปนี้ครับ

1. สินสอด ทองหมั้น : จัดว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญที่สุดในการจัดงานแต่งงานครับ โดยสินสอดมักจะเป็นเงินก้อน ทองคำ หรือทรัพย์สินที่มีค่าสูงประเภทอสังหาริมทรัพย์ เครื่องประดับประเภทเพชรพลอย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือแหวนครับ ดังนั้นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ควรทำการเก็บเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้มีก้อนใหญ่มากพอครับ (ควรคุยกันระหว่างครอบครัวเจ้าบ่าว เจ้าสาว ว่าต้องการเงินส่วนนี้เท่าไหร่ ต้องการทรัพย์สินอื่นๆ หรือไม่)
2. ค่าจัดพิธีการ : การแต่งงานแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบครับ เช่น แบบไทยก็จะมีการเลี้ยงพระ มีการจัดรดน้ำสังข์ แบบฝรั่งก็จะมีการเชิญบาทหลวงมาทำพิธี เป็นต้น ดังนั้นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ คุณจะต้องไปศึกษามาครับว่าต้องใช้สักเท่าไหร่ โดยมากถ้าเป็นงานขนาดกะทัดรัดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป มักอยู่ที่ 20,000 – 30,000 บาท ในส่วนนี้
3. ค่าพรีเวดดิ้ง : ก็คือค่าใช้จ่ายพวกถ่ายรูปแต่งงาน ถ่ายวิดีโอ ในพื้นหลังสวยๆ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำนั่นแหละครับ โดยมากค่าใช้จ่ายส่วนนี้มีหลายราคา (หรือไม่ต้องจ่ายก็ได้ ถ้ามีคนรู้จัก คนในครอบครัว ที่สามารถถ่ายภาพพวกนี้ได้) ถ้าเป็นการจ้างช่างภาพมืออาชีพ ค่าใช้จ่ายก็จะตกที่ราวๆ 20,000 – 70,000 บาทครับ
4. ค่าจัดการเลี้ยงฉลอง : เมื่อมีพิธีการแล้วก็ต้องมีการจัดงานเลี้ยง เพื่อรับรองแขกเหรื่อครับ โดยมากงานเลี้ยงฉลอง มักจัดที่สถานที่ขนาดใหญ่ เช่น ห้องอาหาร หรือห้องประชุม ในโรงแรม ดังนั้น ตีไปเลยครับ ไม่ต่ำกว่าแสนบาทแน่นอน สำหรับส่วนนี้ ยิ่งงานใหญ่เท่าไหร่ เชิญแขกเหรื่อมากเท่าไหร่ค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งมากตามไปด้วย อย่างไรก็ตามถ้าคุณมีสถานที่อยู่แล้ว เช่น จัดงานที่บ้าน (ควรมีเนื้อที่เยอะหน่อย) ก็อาจจะเปลี่ยนจากค่าสถานที่ มาลงที่อาหาร และเครื่องดื่มได้
5. การ์ดแต่งงานและของชำร่วย : การ์ดแต่งงานเองก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญที่ขาดไม่ได้ครับ ปกติอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 2,000 บาท สำหรับงานขนาดกะทัดรัด ส่วนของชำร่วยอันนี้ก็จะอยู่ที่ราวๆ 2 -4 พันบาท ขึ้นกับสเกลของงาน
6. ค่าช่างแต่งหน้า : แต่งงานทั้งที เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องดูดีที่สุดครับ ดังนั้นช่างแต่งหน้า เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ โดยมากอยู่ที่ราวๆ 2,000 – 20,000 บาทขึ้นกับชื่อเสียง และฝีมือของช่างนั้นๆ
7. ค่าจัดงาน และสันธนาการต่างๆ : ถ้าใครจ้างออแกไนซ์จัดงานให้ก็ตีไปเลย 30,000 อย่างต่ำ และถ้าจ้างวงดนตรีมาเล่นด้วยก็ราวๆ 7,000 บาทขึ้นไปครับ